บทที่ 5 ปราบพยศ

ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้อารดาตาค้าง มันคือภูเขาที่   รายล้อมไปด้วยน้ำทะเล อย่าบอกนะว่าเขาจะเอาเธอมาปล่อยเกาะ    ไม่มีเวลาคิดนาน เมื่อเสียงของคนที่อยู่ในน้ำเอ่ยเร่ง ให้เธอลงไปเร็ว ๆ

ร่างบางมองซ้ายมองขวาก่อนจะตัดใจกระโดดตามเขาลงไป      น้ำบริเวณนี้แค่หน้าอก แต่ด้วยการแต่งตัวของเธอก็ทำให้เดินลำบาก     ไม่น้อย

ธนากรเดินกลับมายังร่างของคนที่ยืนโงนเงน แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปถึงตัว อารดาก็ตวาดแหวใส่เขาพร้อมกับใช้มือตีน้ำจนธนากรโมโห

“อย่าเข้ามานะ นี่แน่ะ ๆ”

หญิงสาวทั้งตีน้ำทั้งวักน้ำสาดใส่ จนชายหนุ่มเริ่มหมดความอดทน ร่างสูงไม่พูดพร่ำทำเพลง ตรงเข้าไปหาคนร่างบาง ก่อนจะรวบตัวเธอแล้วแบกขึ้นบ่า เดินขึ้นฝั่งไปเร็ว ๆ ลุงพงษ์ส่ายหัวเมื่อเห็นการกระทำของนายหัวหนุ่ม

“ลำบากลำบนแท้”

บ่นพร้อมกับส่ายหัวไปมา ไม่เข้าใจว่าเจ้านายจะดั้นด้นพาคุณคนสวยมาที่นี่ทำไม จะมาหาแต่ละครั้งก็แสนจะลำบาก

“ลุงวางของแล้วก็กลับไปได้เลยนะ คืนนี้ผมจะนอนที่นี่”

ธนากรหันมาบอกคนงาน ก่อนจะแบกคนบนบ่าเดินต่อไปเร็ว ๆ ในท่านี้อารดาเวียนหัวจนแทบอาเจียน แค่เมาเรือก็แย่พอแล้ว ยังจะมาถูกจับห้อยหัวอีก

“กรี๊ดดด! ช่วยด้วย!” ส่งเสียงร้องไปอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์

“จะแหกปากทำไมวะ!” ธนากรตวาดก่อนจะโยนคนบนบ่าลงพื้นอย่างแรง

“โอ๊ย!” อารดาเจ็บจนร้องไม่ออก ร่างบางตัวงอก่อนจะยกมือ     กุมท้อง

“อย่าสำออย ลุกขึ้น!”

หญิงสาวไม่ตอบ แต่ยังคงนอนเอามือกุมท้องอยู่แบบนั้น ตาคมเข้มกวาดมองไปทั่วตัวคนที่อยู่ตรงหน้า ตอนนี้อารดามอมแมมจนแทบจะมองไม่เป็นคน เสื้อผ้าขาดวิ่น หัวฟูเป็นรังนก แถมกระโปรงก็ขาดจนเห็นกางเกงชั้นใน ธนากรยิ่งโมโหหนักเมื่อเห็นเธอนั่งไม่ระวังแบบนั้น

“ลุกขึ้น!” ออกคำสั่งอีกครั้ง แต่คนตัวเล็กยังนั่งนิ่ง ร่างสูงส่ายหัว ก่อนจะขยับเข้าหา

ทันทีที่ชายหนุ่มย่อตัวลง ทรายก็สาดเข้ามาเต็มหน้า ดีที่เขาหลับตาทัน ไม่อย่างนั้นตาคงบอดแน่นอน เพราะอารดาจงใจซัดมันเข้ามาบนหน้าเขาอย่างแรง ร่างบางถอยหนีก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้น แล้ววิ่งหนี วิ่งทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จะไปทางไหน

“หยุดนะอารดา!” ธนากรตวาดลั่น ใช้ชายเสื้อเช็ดหน้าลวก ๆ แล้ววิ่งตามไป

ร่างบางวิ่งไปทางที่เรือจอดอยู่ อย่างน้อยนั่นก็เป็นทางเดียวที่เธอจะได้ไปจากที่นี่ อารดาลุยน้ำมาถึงเรือ ก็เป็นจังหวะที่ลุงพงษ์กำลังจะขับเรือกลับพอดี

“ลุง! ลุงคะ! ช่วยฉันด้วย!” ร่างบางร้องเรียกแล้วเร่งฝีเท้าวิ่งมาที่เรืออย่างเร็ว

“อะไรอีกนะ ผู้หญิงคนเดียวเอาไม่อยู่”

ลุงพงษ์บ่นเป็นภาษาท้องถิ่นให้เจ้านายหนุ่ม เดี๋ยววิ่งหนี        เดี๋ยวว่ายน้ำหนี คนแก่ชักเริ่มเหนื่อยใจแทน

“ช่วยฉันด้วยค่ะ ฉันมีเงิน พาฉันไปจากที่นี่นะ ฉันจะตอบแทนลุงอย่างงามเลย นะคะลุง ช่วย...ว้าย!”

คำพูดที่เหลือถูกกลืนลงคอเมื่อมือของใครบางคนคว้าหมับเข้าที่หัวไหล่

“จะกลับก็รีบไปเลยลุง มานี่!”

ธนากรร้องบอกลุงพงษ์ ก่อนจะคว้าเข้าที่ลำคอขาวเนียน            ลงน้ำหนักบีบ ก่อนจะจับหัวเธอกดลงน้ำเพราะโมโหที่เธอพยศไม่เลิก

ลุงพงษ์ตาเหลือกเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มทำแบบนั้น ก่อนจะรีบขับเรือหนีไป หวังว่าคุณคนสวยคงไม่ช้ำในตายไปก่อนนะ

ชายหนุ่มนับหนึ่งถึงสามในใจ แล้วดึงหัวอารดาขึ้นจากน้ำ เขาก็ไม่อยากทำแบบนี้ แต่เธอพยศจนเขาหมดความอดทน

“แค่ก ๆ ๆ” ร่างบางไอจนหน้าดำหน้าแดง ก่อนจะหันมามอง    ชายหนุ่มตาขวาง

“จะหมดฤทธิ์ได้รึยังฮะ!” ธนากรตวาดลั่น ก่อนจะโมโหสุดขีด เมื่ออารดาทำบางอย่างกับเขา

“ถุย!”

เพียะ!

ทันทีที่น้ำลายกระทบผิวหน้า ฝ่ามือแกร่งก็ฟาดลงบนใบหน้าสวยเต็มแรง อารดาหน้าหันไปตามแรงตบ ก่อนจะหันมาจ้องหน้าชายหนุ่ม อย่างไม่เกรงกลัว

“เอาสิ ตบมาอีกสิ จับกดน้ำอีกสิ ทำสิ ทำสิ! ไอ้... อื้อ”

คำด่าถูกกลืนหายเมื่อปากบางถูกทำโทษด้วยปากร้อนของคน   ตัวโต ธนากรตัดสินใจปิดปากที่ตะโกนด่าปาว ๆ ด้วยวิธีของเขา ผู้หญิงคนนี้เป็นคนถือดี เขารู้ตั้งแต่วันที่เธอเอาเช็คใบนั้นมาโยนใส่หน้าเขาแล้ว ปากร้อนบดขยี้ลงไปบนปากอิ่มแรง ๆ อย่างต้องการทำโทษ

อารดาส่ายหน้าหนี เธอเกลียดเขา... เกลียดทุกอย่างที่เป็นเขา แค่ครั้งเดียวก็เกินพอ ยิ่งคนร่างบางต่อต้าน ธนากรก็อยากเอาชนะ       มือแกร่งบีบปากบาง ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปหาความหวานในปาก ตอนนี้ทำมาเป็นรังเกียจ ทีคืนนั้นเรียกร้องเอาจากเขาทั้งคืน พอเขา     ไม่ยอมเธอก็ลงมือทำเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห

“ปล่อย!” มือบางผลักอกเขาอย่างแรง เมื่อชายหนุ่มถอนปากออก ร่างบางหอบจนตัวโยน

“ทำมาสะดีดสะดิ้ง ทีคืนนั้นร้องขอทั้งคืน รู้งี้ไม่น่าช่วยเลย”

ธนากรพูดหน้าตาเฉย อารดาตวัดตาขึ้นมามอง ก่อนจะลงมือผลักอกเขาอีกครั้ง ช่วยเหรอ? สิ่งที่เขาทำกับเธอเรียกว่าช่วยเหรอ

“ปล่อย!”

ร่างบางสะบัดตัวออก ก่อนจะเดินขึ้นฝั่ง เธอเบื่อ เธอเหนื่อย     และก็หิวมาก แรงจะเดินยังไม่มี ไม่รู้ว่าเขาจะหาเรื่องอะไรอีก นาทีนี้   เธออยากได้อาหาร อยากอาบน้ำ และอยากทำอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องมีผู้ชายคนนี้มาเกี่ยวข้อง

“ก็แค่นี้” ธนากรพูดกับตัวเอง เมื่อยกมือขึ้นลูบปากเบา ๆ แล้วเดินตามหลังหญิงสาวขึ้นฝั่ง

“ทางนี้” ชายหนุ่มร้องบอก ก่อนจะแบกสัมภาระที่ขนมาเดินนำหน้า อารดาเดินตามไปอย่างว่าง่าย เธอไม่เถียง ไม่ต่อต้าน เพราะเหนื่อยและเบื่อเต็มทน

ธนากรเดินมาจนถึงกระท่อม ที่อยู่ติดกับส่วนที่เป็นชายหาด    ชายหนุ่มเดินนำขึ้นไปข้างบน วางสัมภาระลงพื้นแล้วเดินสำรวจไปทั่วบริเวณ ถือว่าคำสั่งเขาใช้ได้ทีเดียว เพราะทุกอย่างที่เขาต้องการ         ถูกเตรียมไว้อย่างพร้อมเพรียง คนงานของเขาเนรมิตที่นี่เพียงชั่วข้ามคืน หวังว่าพวกมันคงวางรากฐานไว้แน่นหนานะ ไม่ใช่ลมพัดมาทีเดียว       ก็หอบเอาไปทั้งหลัง

“ลุกขึ้น ไปหุงข้าว หิวไม่ใช่เหรอ หุงข้าวสิ” ธนากรสั่ง

“ทำไม่เป็น!” อารดาเถียง

ธนากรมองไปยังคนที่นั่งพิงเสา เหยียดขาทั้งสองข้างมาด้านหน้า แล้วขานั่นจะถ่างไปไหน เห็นแล้วก็นึกโมโห ร่างสูงเดินกลับเข้าไปในส่วนของห้องนอน ถืออะไรบางอย่างมาโยนใส่หน้าหญิงสาว

“ใส่ซะ ปิดมั่งเถอะ เห็นแล้วจะอ้วก”

ธนากรพูดพร้อมกับส่ายหัวไปมา อารดามองสิ่งที่เขาโยนมาให้ ด้วยสายตารังเกียจ ร่างบางขยับเปลี่ยนท่านั่งใหม่ จะอ้วกใช่ไหม งั้นก็อ้วกให้พอ คิดได้ดังนั้นก็ลงมือดึงชายกระโปรงให้ร่นขึ้นมาจนถึงหน้าขา

“อ้อม!” ธนากรตวาดลั่น ลืมไปเลยว่าเผลอเรียกชื่อเล่นของเธอออกมา

“ลุกขึ้นมานี่ มาหุงข้าว!”

“ไม่ทำ ทำไม่เป็น” อารดายังยืนคำเดิม

“ทำไม่เป็นก็ไม่ต้องกิน!”

ธนากรตวาด ก่อนจะปาของในมือลงพื้น

“ตามนั้น!”

อารดาตอบอย่างไม่ใส่ใจ เขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่    เอาเธอมาทรมานก็เชิญทรมานเธอให้พอ เธอพร้อมแล้ว

ร่างสูงกำหมัดแน่น พยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจไม่เถียงอะไร    กับเธออีก ก่อนจะลงมือก่อไฟ ให้มันได้อย่างนี้... เอามาทรมานนะโว้ย คิดอย่างหัวเสีย แต่ก็ลงมือทำงานต่อไปเงียบ ๆ ถ้าขืนรอให้ยายคุณหนูหัวฟูมาทำ วันนี้ก็คงไม่ได้กินข้าวเย็น

“มานี่ มาดูไว้ว่าทำยังไง วันหลังจะได้ทำเป็น”

“ไม่ไป ไม่ทำ ไม่มีก็ไม่กิน!”

หญิงสาวเถียง ร่างบางยังนั่งอยู่ที่เดิม ไม่สนใจกับคำสั่งของเขา

“อารดา!”

บทก่อนหน้า
บทถัดไป